สว่านไร้สายของดีที่ควรมีไว้ใช้งาน

 

สว่านไร้สาย เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องอาศัยพลังงานจากปลั๊กไฟและใช้แบตเตอรี่ในการทำงานแทน แน่นอนว่ามันจะช่วยทำให้สะดวกสบายขึ้นในการใช้งาน
แต่ช้าก่อนสว่านไร้สายก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่บ้าง 
เช่น ถ้าหากมีการใช้งานนานๆ พลังงานแบตเตอรี่อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
หรือกำลังอาจจะแรงสู้สว่านแบบมีสายไม่ได้ 
แต่มันก็มีข้อดีในตัวของมันอยู่ บางคนลองใช้แล้วอาจติดใจบางคนอาจกลับไปใช้งานสว่านมีสายแบบเดิม
ก็แล้วแต่คนชอบ วันนี้ทาง Puma Tools เลยจะมาขอแนะนำ สว่านไร้สายแบบเจาะลึก เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อว่าเราเหมาะกับแบบไหน ยังไง มาดูกันเลย

 

สว่านไร้สาย คือสว่านที่ใช้แบตเตอรี่เป็นตัวขับเคลื่อน ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ DC มอเตอร์พูดง่ายๆคือชาร์ตแบตเตอรี่
เอาตัวแบตเตอรี่มาเป็นพลังงงานในการเดินเครื่อง สว่านไร้สายมีเทคโนโลยีใหม่ๆรวมอยู่ในตัวเครื่องมากมาย เช่น มอเตอร์ถูก
พัฒนาให้เป็นมอเตอร์ไร้แปลงถ่าน มีความทนทานมากกว่าแบบมีสาย มีความปลอดภัยที่มากกว่าเวลาใช้งานไม่ต้องกลัวไฟตก ไฟเกิน
และมีระบบที่หลากหลายกว่าเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน เช่นระบบไฟฉาย หรือระบบกันกระแทก เป็นต้น
ที่นี้เราก็เราก็มาดูการแบ่งแยกประเภทของสว่านไร้สาย ตามการใช้งานกันบ้าง ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้




1.สว่านไร้สายโรตารี่ หรือสว่าน 3 ระบบ ใช้เจาะได้ทั้งวัสดุที่เป็น ปูน ไม้ และโลหะ และส่วนมากจะมีระบบ 3 ระบบคือ ระบบเจาะปกติ / ระบบเจาะกระแทก / ระบบสกัด
ส่วนมากสว่านรุ่นนี้จะใช้ แบตเตอรี่ 18 โวลต์ขึ้นไป เพราะต้องการพลังงานสูง แต่ในบางแบรนด์ก็มีการออก สว่านโรตารี่ 12 โวลต์ ขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้
งานสำหรับผู้ที่ต้องการเจาะเล็กๆเช่นกัน




2.สว่านไร้สายเจาะปูน แบ่งออกได้หลักๆเป็น 2 ประเภท คือสว่านไร้สายที่มีระบบกระแทก และ สว่านไร้สายโรตารี่

โดยสว่านกระแทกจะใช้พลังงานในการเจาะมากกว่า เหมาะกับงานเจาะที่ไม่มาก ส่วนสว่านโรตารี่เหมาะกับใช้งาน

เจาะรูขนาดใหญ่ เจาะรูเยอะ สามารถเลือกดูสว่านทั้งง 2 รูปแบบนี้ได้ง่ายๆ คือจะมีสัญลักษณ์รูปค้อน อยู่ที่โหมดการทำงาน

ถ้ามีก็มั่นใจได้เลยว่าสามารถใช้เจาะปูนได้แน่นอน




3.สว่านไร้สายมอเตอร์ brushless

สว่านไร้สายรุ่น Top ในปัจจุบัน มักจะเป็น Motor Brushless มอเตอร์แบบไร้แปลงถ่าน หลักการทำงานอธิบายแบบง่ายๆ คือ จะไม่มีส่วนที่สัมผัสกัน
ระหว่างขั้วไฟฟ้าโรเตอร์และสเตเตอร์ ทำให้ไม่เกิดการเสียดสี กระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งสู่ขดลวดได้โดยตรง
และเกิดเป็นแรงแม่เหล็กผลักขั้วแม่เหล็กตรงกลางให้หมุนนั่นเอง
ข้อดีของ มอเตอร์ชนิดนี้ก็คือ ไม่มีโอกาสที่จะเกิดประกายไฟ
น้ำหนักเบา เสียงเงียบ กินไฟน้อยกว่าไม่ต้องบำรุงรักษาเยอะ แต่มีราคาที่สูงกว่ามอเตอร์แบบปกติ
อยู่มากโขเลยทีเดียว
แต่ถ้ามองถึงคุณภาพ และการใช้งานระยะยาวก็นับว่าน่าลงทุนอยู่ไม่ใช่น้อย




สว่านไร้สายถูกแบ่งออกได้อีกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆโดยแบตเตอรี่ คือ 12
V. และ 18V. การใช้งานก็จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง

12V. เน้นพกพาออกไปใช้งานได้สะดวก ใช้งานไม่หนักมากหรืออยากมีเครื่องมือติดบ้านไว้ใช้งาน

18V. เน้นใช้งานหนัก มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น กำลังแรงขึ้นแต่ก็มีน้ำหนักที่ค่อนข้างสูงกว่า 12V. อยู่มากพอควร




ในปัจจุบัน แบตเตอรี่ของสว่านไร้สายส่วนมากแล้วก็จะเป็นลิเธียมไอออน(Lithium-Ion Battery)ทั้งหมดซึ่งเป็นแบตเตอรี่ชนิดเดียวกับโทรศัพท์มือถือ
แต่ว่าเทคโนโลยีของบริษัทนั้นมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยสำหรับคุณสมบัติหลักของ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน คือ การจ่ายไฟที่แรง และคงที่อยู่ตลอดเวลา
แม้ไฟในแบตเตอรี่ใกล้จะหมด แถมยังมีระยะเวลาการชาร์จไฟจนเต็มความจุที่เร็วกว่าแบตเตอรี่แบบอื่นๆ และยังใช้ได้นานกว่าอีกด้วยเช่นกัน

 

การดูแลรักษาลิเธียมไอออน(Lithium-Ion Battery) ให้อยู่กับเราไปนานๆถึงแบตเตอรี่ชนิดนี้จะมีอายุการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพได้ค่อยข้างยาวนาน คือ1.0-1.5 ปี แล้วหลังจากนั้นก็จะค่อยเสื่อมสภาพลงตามการใช้งาน แต่ถ้าเราไม่ดูแลรักษาเลยก็อาจจะเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งานที่สมควรได้เช่นกัน

1.เก็บแบตเตอรี่ หรืออุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้ให้อยู่ภายในอุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการชาร์จไฟภายใต้อุณหภูมิสูง เพราะจะยิ่งทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น

2.อย่าใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง หรือใกล้หมดสุดๆ ควรหมั่นชาร์จให้มีไฟเลี้ยงตัวแบตเตอรี่อยู่บ่อยๆ เพราะการชาร์จไฟบ่อยๆ ไม่ได้มีผลต่อการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่

3.ใช้อุปกรณ์ชาร์จไฟที่ได้มาตรฐาน มีการจ่ายไฟเข้าแบตเตอรี่ที่นิ่ง และคงที่ ไม่ควรชาร์จไฟในรถบ่อยๆ เพราะไฟในรถไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่นัก

 

ทาง Puma tools ก็หวังว่าเพื่อนๆจะสามารถเลือกเครื่องมือที่ตรงใจและเหมาะสมกับการใช้งานได้เป็นอย่างดี โอกาสหน้าเราจะมีความรู้ดีๆอะไรมาบอกอย่าลืมติดตาม https://www.facebook.com/pumatoolsthailand กันไว้นะครับ