เลือกกาพ่นสีให้ตรงการใช้งาน


กาพ่นสีเป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ในการตกแต่งชิ้นงาน ช่วยให้ทำงานสีได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้งานออกมาเรียบเนียนสวย ใช้ได้ทั้งกับงานไม้,งานโลหะ,พ่นสีรถยนต์และทาสีบ้าน กาพ่นสีมีทั้งแบบใช้กับปั๊มลมและไฟฟ้า โดยบทความนี้จะกล่าวถึงกาพ่นสีที่ใช้กับปั๊มลมเท่านั้นซึ่งกาพ่นสีลมมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามลักษณะของงาน มีดังนี้ ประเภทของกาพ่นสีลม

กาพ่นสีลมแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่

1. กาพ่นสีแบบไหลลง (Gravity Feed Type)

2. กาพ่นสีแบบดูด (Suction Feed Type)

3. กาพ่นสีแบบอัด (Air Compression Type)

4. กาพ่นสีแบบมีหรือไม่มีลมไหลผ่านตลอด (Bleeder and Non-Bleeder Type)

5. กาพ่นสีแบบพ่นสีล้วน (Airless Spray Type)

   แต่ที่นิยมใช้กันทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภท

  คือ กาพ่นสีแบบไหลลง กับ กาพ่นสีแบบดูด


   1) กาพ่นสีแบบไหลลง หรือ กาพ่นสีบน (Gravity Feed Type) เป็นกาพ่นสีที่มีการไหลของสีแบบไหลลงโดยอาศัยแรงโน้มถ่วง เหมาะกับงานที่ใช้สีหรือของเหลวที่มีความหนืดสูง ใช้สีได้หมด ไม่มีสีตกค้างในตัวกา ทำให้ประหยัดสี แต่มีข้อเสียคือ พ่นสีต่อเนื่องนานไม่ได้เพราะตัวกาบรรจุสีได้น้อย ต้องเติมสีบ่อย


   2) กาพ่นสีแบบดูด หรือ กาพ่นสีล่าง (Suction Feed Type) เป็นกาพ่นสีที่มีตัวกาอยู่ด้านล่างของตัวพ่นสี หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า กาล่าง ต้องใช้แรงดูดในการดูดสีขึ้นมาจากตัวกา เหมาะกับงานพ่นสีอุตสาหกรรมเพราะตัวกาสามารถต่อกับถังสีได้โดยตรงทำให้พ่นสีต่อเนื่องได้นาน ทำให้พ่นสีชิ้นงานจำนวนมากได้ กาพ่นสีลมทั่วไปต้องการความดันลมประมาณ 2.5-4 บาร์ ซึ่งจะมีการฟุ้งกระจายของละอองสีค่อนข้างมาก ต้องใช้พื้นที่ในการทำงานที่กว้าง แต่ปัจจุบันกาพ่นสีถูกพัฒนาให้ดีขึ้น ทำให้มีให้เลือกใช้เพิ่มอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่


   1) กาพ่นสีแบบ Trans-tech ต้องการความดันลมประมาณ 2 บาร์ มีประสิทธิภาพในการฉีดสีสูงกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกาพ่นสีทั่วไปที่มีประสิทธิภาพในการฉีดสีต่ำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ประหยัดสีมากขึ้น

   2) กาพ่นสีแบบปริมาณลมสูงความดันต่ำ (High Volume Low Pressure: HVLP) ต้องการความดันลมต่ำกว่า 2 บาร์ ทำให้ใช้กับปั๊มลมขนาดเล็กได้ มีการฟุ้งกระจายของละอองสีน้อย สามารถใช้ในพื้นที่การทำงานจำกัดได้ เช่น ภายในบ้าน ภายในห้องเล็กๆ เป็นต้น มีประสิทธิภาพในการฉีดสีสูงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ราคาค่อนข้างสูงโดยเฉพาะถ้าเป็นกาพ่นสีแบบกาล่าง การเลือกขนาดของรูหัวฉีดสี

 

 ขนาดของรูหัวฉีดสีมีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 0.8-3.0 มม.หากเป็นงานที่ต้องการความละเอียดสูง มักจะใช้รูหัวฉีดขนาด 0.8-1.3 มม. งานที่ต้องการความละเอียดปานกลางหรืองานทั่วๆไป จะใช้รูหัวฉีดขนาด 1.3-1.8 มม. และงานที่ต้องพ่นสีความเข้มข้นสูงก็จะใช้หัวฉีดขนาดประมาณ 2-2.5 มม.


 ชนิดของสีที่ใช้กับกาพ่นสี ปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งในการเลือกกาพ่นสีคือ ชนิดของสีที่ใช้พ่นชิ้นงาน โดยต้องพิจารณาว่ากาพ่นสีแต่ละรุ่นเหมาะกับสีชนิดใด เช่น สีน้ำ สีน้ำมัน สีทา สีย้อม สีแต้ม สีเคลือบ แลกเกอร์ สีที่มีความหนืด หรือแม้แต่ตัวทำละลายที่ใช้ผสมสีเป็นแบบไหน ใช้น้ำ ใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ หรือตัวทำละลายที่มีความกัดกร่อนสูง เป็นต้น